messager
local_cafe สถานที่ท่องเที่ยว
ภาพแนะนำ ทำบุญไหว้หลวงปู่เกลี้ยง พระศรีธาตุโนนแกด





ทำบุญไหว้หลวงปู่เกลี้ยง พระศรีธาตุโนนแกด
ประวัติของหลวงปู่เกลี้ยง เตชธมฺโม เดิมชื่อว่า เกลี้ยง คุณมะนะ เกิดวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2451 เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวน 7 คน บิดาชื่อ บุญมี คุณมะนะ มารดาชื่อ ผิว คุณมะนะ มีพี่น้องร่วมสายโลหิต 7 คนเป็นชาย 6 คน หญิง 1 คน 1. นายสอน เสียชีวิตแล้ว 2.นายอิ่ม คุณมะนะ เสียชีวิตแล้ว 3. นายเทพ คุณมะนะ เสียชีวิตแล้ว 4.หลวงปู่สร้อย ได้มรณะแล้ว 5.หลวงพ่อพระครูกลิ้ง เจ้าอาวาสวัดหนองม่วง มรณภาพแล้ว 6.หลวงปู่เกลี้ยง เตชธมฺโม เจ้าอาวาสวัดบ้านโนนแกด 7.นางไหม วงศ์สินชัย ได้เสียชีวิตแล้ว เกิดที่บ้านก้านเหลือง ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เมื่อหลวงปู่ได้อายุ 3 ปี บิดาก็ได้เสียชีวิต มารดาจึงได้อพยพมา อยู่บ้านโนนแกด ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และได้เข้าโรงเรียน บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีละเกษ ในขณะเรียนหนังสืออยู่นั้นหลวงปู่เป็นคนเอาใจใส่ต่อการเรียนเป็นนักเรียน เก่ง จนได้รับคัดเลือก เป็นนักเรียนดีเด่นของ อ.เมือง เป็นที่รักของเพื่อนๆ ตลอดทั้ง ครูบาอาจารย์ เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลวงปู่ไม่ได้ไปศึกษาต่อได้ช่วยครอบครัวประกอบอาชีพเป็นคนขยัน เป็นที่รัก ของแม่พี่น้องและเพื่อนร่วมบ้านเป็นอย่างดี เมือปี พ.ศ.2467 ทางราชการประกาศรับสมัครผู้ที่จบประถมปีที่ 4 เข้าสมัครเป็นครูช่วยสอน หลวงปู่สอบคัดเลือกได้ช่วยสอนครั้งแรกที่โรงเรียน วัดบ้านโนนแกด ซึ่งขณะนั้นเริ่มก่อตั้งใหม่ทำการสอนได้ 4 เดือน ทางราชการจึงสั่งย้ายไปสอนที่โรงเรียนบ้านโพรง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ทำการได้ 3 ปี 6 เดือน ไประยะนั้นร่างกายไม่สมบูรณ์จึงได้ลาออก มารักษาตัวอยู่ที่บ้านตั้งนานก็ไม่หาย. ต่อมาเหมือนมีสิ่งหนึ่งมาบันดลในใจอยากให้คิดอยากจะบวชจึงได้บอก มารดาว่าจะขอบวช มารดาและพี่น้องก็ไม่ขัดน้องจึงได้บรรพชา เป็นสามเณรที่วัดบ้านโนนแกด ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เมื่อได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้วการเจ็บป่วยก็หายเหมือนปาฎิหารย์ โดยไม่ได้ใช้ยาอะไรรักษาเลยเมื่อการเจ็บป่วยหายเป็นปกติแล้ว หลวงปู่จึงได้แสวงหาหลักธรรม คำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ในสมัยนั้นที่วัดบ้านโนนแกดยังไม่มี สำนักเรียนนักธรรม สนามหลวงจึงได้ขออนุญาตจากเจ้าอาวาสไปศึกษานักธรรมที่ สำนักวัดบ้านดวนใหญ่ ต.ดวนใหญ่ อ.เมือง จ.ศรีละเกษ โดยมี ท่านพระครูนิวาสเป็นเจ้าอาวาสหลวงปู่จึงได้ศึกษาพระธรรมวินัย ครบ 1 พรรษาจึงสมัครเข้าสอบนักธรรมชั้นตรีที่สนามสอบนัก ธรรมสนามหลวง สำนักวัดมหาพุทธาราม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มีผู้สมัครเข้าสอบจากสำนักวัดดวนใหญ่ทั้งหมด 47 รูปที่สอบนัก ธรรมชั้นตรีมีผู้สอบได้ 2 รูป คือพระภิกษุสิงห์ และสามเณรเกลี้ยง คุณมะนะ เท่านั้นเมื่อสอบนักธรรมชั้นตรีได้แล้ว หลวงปู่อยากจะ ศึกษาต่อนักธรรมชั้นโทแต่ในสมัยนั้นสำนักเรียนนักธรรมชั้นโทใน จ.ศรีสะเกษยังไม่มีสำนักเรียน จึงได้กราบลาท่านพระครูนิวาสเจ้าอาวาส วัดบ้านดวนใหญ่ไปเรียนนักธรรมชั้นโทที่สำนักวัดบ้านปลัดปุก ต.ปราสาท อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ศึกษาได้ 1 พรรษา สอบนักธรรมชั้นโทได้ทางราชการมีหมายเรียกให้เข้ารับเกณฑ์ทหาร หลวงปู่จับสลากคัดเลือกได้รับเข้าเป็นทหารเกณฑ์จึงได้ลาสิกขาบทเข้ารับ ราชการทหารไปประจำอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานีเข้ารับการฝึกครบ 6 เดือน ทางราชการทหารได้ประกาศคัดเลือกทหาร เข้าเรียนนักเรียนนายสิบหลวงปู่ได้คัดเลือกเข้าเรียนโรงเรียนนายสิบจังหวัด นครราชสีมา เรียนจบหลักสูตร 15 เดือน เมื่อจบเข้า ประจำการกองกำลังชุดปืนกลเบาออกปฏิบัติการชายแดนประเทศกัมพูชา-ลาว และปฏิบัติการร่วมรบสงครามเอเชียบูรพา ปฏิบัติการชายแดนอยู่ประมาณ 2 ปี 7 เดือน ในขณะปฏิบัติราชการ หลวงปู่เป็นที่รักของเพื่อน ๆ และผู้บังคับบัญชารักหวงปู่เป็นพิเศษ ต่อมาหัวหน้าของชุดปฏิบัติการของหลวงปู่ได้ย้ายเข้ามาเป็นผู้ช่วยสัสดี อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ท่านเห็นหลวงปู่ขณะปฏิบัติราชการเป็นคนเอาใจใส่ต่อหน้าที่เป็นอย่างดีและ พิเศษ สำหรับ หลวงปู่ซึ่งเป็นที่ได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้าเป็นอย่างยิ่ง ท่านจึงขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาชั้นสูงขอย้ายหลวงปู่ติดตามท่าน ด้วยทางหน่วยเหนืออนุมัติย้ายได้มาปฏิบัติการในตำแหน่งเสมียน สัสดีอำเภอปฏิบัติราชการอยู่ได้ 2 ปี 3 เดือน มารดาของหลวงปู่ก็ได้เสียชีวิตพวกพี่ๆ ต่างก็มีครอบครัวกันหมด คงเหลือแต่น้อง สาวคนเล็กอยู่บ้านเพียงคนเดียว หลังจากทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่มารดาแล้วหลวงปู่คิดถึงน้องคิดถึงหน้าที่ จึงเกิดจิตหวั่นไหวการปฏิบัติหน้าที่จึงไม่สมบูรณ์จึงขอลาออกจากราชการในขณะ รับ ราชการได้รับเงินครั้งแรก 6 บาทจนถึงลาออกได้รับเงิน 16 บาท เมื่อลาออกจากราชการแล้วก็มาอยู่บ้านโนนแกดกับน้องสาวได้ จับจองที่ดินได้มากมายเพราะหลวงปู่เป็นคนฉลาดและขยันแล้ว หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตนเป็นคนดีเสียสละโอบอ้อมอารีมีจิตใจชื่อตรง สมกับที่เคยได้รับใช้ราชการจนเป็นที่เคารพนับถือของชาว บ้านโนนแกดและใกล้เคียงชาวบ้านจึงแต่งตั้งให้เป็นตุลาการของหมู่บ้าน หากชาวบ้านเกิดเรื่องเกิดความหลวงปู่จะเป็นคนไกล่เกลี่ยช่วยแก้ไขจนสามารถ ตกลงกันได้จนสำเร็จ จนได้รับเป็นที่ ปรึกษาของผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ตลอดทั้งชาวบ้าน ต.ทุ่ม เป็นอย่างดี ในขณะที่ได้รับความไว้ใจจากทุกฝ่าย หลวงปู่จึงเป็นแกนนำของ ชาวบ้านแล้วจึงได้วางแผนผังหมู่บ้านใหม่ ซึ่งสมัยก่อนหมู่บ้านตั้งอยู่กระจัดกระจายไม่เป็นแถวเป็นแนวร่วมกับผู้ใหญ่ บ้านพร้อมชาวบ้านตัดถนนภายในหมู่บ้านใหม่ทุกสาย ถ้าถนนไปถูกบ้านก็ต้องรื้อและช่วยกันปลูกให้ใหม่โดยกำลังของชาวบ้านร่วม สามัคคีกัน ในที่สุดหมู่บ้านโนนแกดจึงได้ถนนหนทางเป็นระเบียบจนเท่าถึงทุกวันนี้ ต่อมาก็พร้อมกับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านบุกเบิกดอนเจ้าปู่ตา ซึ่งเป็นหนองน้ำใหญ่อยู่ในใจกลางทางด้านตะวันออก ของหมู่บ้าน ซึ่งแต่ก่อนนั้นเป็นป่าหนาทึบมีคนเข้าไปจับจองถากถางก็เกิดการเจ็บป่วยล้ม ตายมากมาย เนื่องจากว่าที่แห่งนี้มีผีสางนางไม้อยู่มากมาย แต่หลวงปู่เป็นผู้นำบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ผีสางนางไม้ เทวดาผู้รักษาว่าจะขอถากกางที่แปลงนี้เถอะถ้าปล่อยไว้ก็จะเป็นชุกของยุง สัตว์ร้ายนานาชนิดนำอันตรายมาสู่หมู่บ้าน จึงพร้อมใจกันโดยมีหลวงปู่เป็นผู้นำพัฒนาจนสำเร็จ และมอบให้เป็นสาธารณะสงฆ์มีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่เศษ จน เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปว่าหลวงปู่สามารถพูดจากับผีสางนางไม้ได้ ส่วนทางด้านหมอยาแผนโบราณหลวงปู่มีประสบการณ์ใน ขณะปฏิบัติราชการทหารสามารถรู้จักยาสมุนไพรที่รักษาโรคต่างๆ ได้จนได้เป็นที่พึ่งพาอาศัยของผู้เจ็บป่วยโดยทั่วไป ชื่อเสียงเป็นที่เรื่องลือมากขึ้น ก็มีผู้นำผู้ป่วยมารักษาอยู่กับหลวงปู่ที่บ้านโนนแกดเป็นจำนวนมาก จนได้รับขนานขามว่าหมอยาเกลี้ยงผู้วิเศษ ซึ่งมีความสามารถรักษาผู้ป่วยผู้มีทุกข์ให้เกิดสุข หลวงปู่ได้เสียสละแรงกายแรงใจให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอดโดยไม่คิดค่า ตอบแทนแต่ประการใดขอเพียงแต่ผู้ที่เกิดทุกข์ที่มาขอพึ่งหลวงปู่ได้เกิดสุขก็ พอใจ ในที่สุดก็เกิดสิ่งดลบันดาลในหลวงปู่มีพลังจิต พลังใจค้นคว้าศึกษาพระคาถาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระ คาถาจักรวุธองค์การพระเจ้า 5 พระองค์จนสำเร็จเพื่อความศักดิ์สิทธิ์และเป็นสิริมงคลในตัวของหลวงปู่ ซึ่งถือว่าศิษย์ย่อมมีครู มีความรู้ย่อมไม่อวดตัวเองว่าเก่ง จึงไปขอศึกษาเพิ่มเติมวิชากับครูจานบานที่บ้านหนองครก ท่านจึงแนะนำว่าหากท่านเรียนสำเร็จ พระคาถาที่ท่านกล่าวนี้ อยากให้ท่านไปศึกษาธรรม (บวชธรรม) ท่านจะได้มีบารมีอันสูงส่งอันไพศาล ครูจานบานจึงแนะนำท่าน ก็รับไว้เป็นศิษย์และท่านก็ได้มอบพระคาถาพร้อมหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์พระ สัมมาสัมพุทธเจ้าให้แก่หลวงปู่นำมาปฏิบัติเมื่อได้นำหลักธรรมนำมาศึกษาอยู่ เป็นเวลา 1 ปี ด้วยบุญบารมี ที่ หลวงปู่ที่เคยสร้างแต่ความดีมาตลอดประกอบกับหลวงปู่เป็นผู้แสวงหาธรรมของ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเดชบารมีจึงเกิดขึ้นในตัวหลวงปู่โดยปาฏิหาริย์ ทำให้หลวงปู่เกิดแสงสว่างในกาย ในใจเป็นพลังจิต สมาธิ อธิษฐานบันดาลให้หลวงปู่มีแสงสว่างเป็น ทางนำ คือหลักธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สามารถรู้ เห็นสิ่งที่คนทั่ว ๆ ไปไม่สามารถรู้ได้ สามารถพูดกับพวกผีสางนางไม้ได้สามารถคาดเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในกาลครั้งหน้าได้ อย่างถูกต้องจนเป็นที่ยอมรับเคารพนับถือของประชาชนทั่วไป เมื่อเกิดเจ็บป่วยหรือมีทุกข์ก็ได้พึ่งหลวงปู่ตลอดทั่งจะทำพิธีการ ต่างๆ เป็นต้นว่าฤกษ์จะสร้างบ้านใหม่ ตั้งศาลพระภูมิ ย้ายบ้าน แต่งงาน และพิธีการต่างๆ ฯลฯ หลวงปู่ได้ช่วยทำให้จนได้เกิด ความสุขมาโดยตลอด เมื่อหลวงปู่มีคนเคารพนับถือมากยิ่งขึ้น ก็ มีคนมาขอเป็นลูกศิษย์ (ขอบวชธรรม) มากยิ่งขึ้นเป็นที่เพิ่มพลังจิตพลังใจให้หลวงปู่เป็นอย่างมากหลวงปู่จึงได้ ตั้งจิตอธิษฐาน ว่าขอให้ข้าพเจ้าผู้ถือปฏิบัติหลักธรรมของพระพุทธองค์ ขอให้ข้าพเจ้าได้เป็นที่พึ่งของผู้มีทุกข์กายทุกข์ใจ ขอให้ข้าพเจ้าได้มีบารมีได้สร้างวิหารทาน เมื่อหลวงปู่ได้ตั้งจิตอธิษฐานโดยมี พละคือธรรม เป็นกำลัง 5 อย่าง คือ 1.ศรัทธา ความเชื่อถือ 2.วิริยะ ความเพียร 3.สติ ความระลึก 4.สมาธิ ความตั้งใจมั่น 5.ปัญญา ความรอบรู้ เมื่อมีจิตใจมุ่งมั่นในพุทธศาสนาจึงตัดสินใจออกอุปสมบทอีกครั้ง วัน 7 5 9 4 ค่ำ ปีขาล วันที่ 15 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2518 วัดบ้านแทง ต.ชำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พระอุปัชฌาย์พระครูเกษตรศีลาจารย์ วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ต่อมาชาวบ้านโนนแกดจึงได้นิมนต์มาอยู่วัดบ้านโนนแกดจนถึงปัจจุบัน
ภาพแนะนำ ผามออิแดง

ผามออิแดง
ผามออีแดง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ อยู่บริเวณใกล้เคียงกับทางเดินขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร เป็นหน้าผาสูงชันกั้นเขตแดนประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ตลอดแนวผามออีแดงมีระยะประมาณ 300 เมตร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพของแผ่นดินประเทศกัมพูชาที่อยู่ต่ำลงไปอย่างเป็นมุมกว้าง มีฝูงค้างคาวในยามพระอาทิตย์ตกดิน บริเวณใกล้เคียงมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชมโบราณสถานสถูปคู่รูปทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ส่วนบนกลมข้างในเป็นโพรง สำหรับบรรจุสิ่งของสร้างด้วยหินทรายแดง ขนาดกว้าง 1.93 เมตร ยาว 4.2 เมตร ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์
ภาพแนะนำ วัดศรีธาตุ (โนนแกด) บ้านโนนแกด ตำบลทุ่ม อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ




ภาพแนะนำ ศรีสะเกษอควาเรี่ยม

ศรีสะเกษอควาเรี่ยม
ศรีสะเกษอควาเรี่ยม หรือ ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ตั้งอยู่ภายในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์บรมราชชนนี ถนนเลี่ยงเมือง เกาะห้วยน้ำคำ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ตั้งอยุ่บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ บริเวณโดยรอบมีร้านอาหาร,ร้านจำหน่ายของที่ระลึก,สนามเด็กเล่นและมุมพักผ่อน หย่อนใจมากมาย สถานที่สำหรับจอดรถยนต์กว้างขวาง โดยภายในศูนย์ฯมีพันธุ์ปลามากมายหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งปลาน้ำจืดที่หาดูได้ยากและปลาน้ำเค็มชนิดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ปลาจากลุ่มน้ำอเมซอนมาให้น้องๆได้ศึกษาได้เยี่ยมชมกัน อีกด้วย อย่างปลาช่อนอเมซอน,ปลาสายพันธุ์ปิรันย่าฯลฯ รวมทั้งปลาสวยงาม น่ารักๆอย่างปลาคร๊าฟ ซึ่งที่นี่จะมีพิเศษตรงที่ ผู้มาเยี่ยมชมสามารถสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งร่วมให้อาหารแบบบรรจุขวดนมให้ปลาคร๊าฟดูดขวดนมให้ชมกันอีกด้วย. วัน เปิดทำการ เวลาเปิดทำการ อังคาร – อาทิตย์ 10:00 – 16:00 อัตรา ค่าบริการ เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 30 บาท *ผู้สูงอายุ,ผู้พิการ และเด็กความสูงต่ำกว่า 100 เซนติเมตร เข้าชมฟรี ติดต่อสอบถาม 0-4561-2686, 08-7450-7484 facebook.com/sisaketaquarium sskaquarium@gmail.com